Title:
|
การปรับปรุงพื้นที่ภายนอกอาคารเพื่อป้องกันการบุกรุกของกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ในกรุงเทพมหานคร กรณีศึกษา : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ |
Author:
|
หมั่นคติธรรม, ผู้ช่วยศาสตราจารย์วินัย
|
Abstract:
|
ในการชุมนุมทางการเมืองแต่ละครั้งนั้น มักจะเกิดการปะทะกันของกลุ่มเจ้าหน้าที่และผู้
ชุมนุม มีการปิดล้อมพื้นที่ทางราชการ เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมเข้าบุกรุกพื้นที่สำคัญได้ งานวิจัยฉบับนี้จึง
มุ่งเน้นที่จะศึกษาแนวทางการออกแบบลักษณะทางกายภาพที่สามารถแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ป้องกัน
ได้อย่างถาวรและไม่ใช่การแก้ไขจากปลายเหตุ โดยใช้กรณีศึกษาของพื้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เ0นื่
องจากเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการถูกบุกรุกจากผู้ชุมนุมและเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปิด
ล้อมพื้นที่ของกลุ่ม กปปส. ในปี0พ.ศ. 2556 - 2557 ที่ผ่านมา
ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์มุ่งที่จะศึกษาขอบเขตพื้นที่และลักษณะกายภาพของพื้นที่
ภายนอกอาคาร ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ว่ามี พื้นที่วิกฤตและเสี่ยงต่อการถูกบุกรุกจาก
บุคคลภายนอกบริเวณพื้นที่ใดบ้าง และจะวิเคราะห์ถึงถึงวิธีการและรูปแบบการบุกรุกสถานที่และ
อาคารราชการหลาย ๆ แห่งของผู้ชุมนุม ซึ่งจะนำไปสู่กระบวนการวิเคราะห์และออกแบบเพื่อ
แก้ปัญหาอย่างเหมาะสม รวมถึงจะเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงพี้นที่ภายนอกอาคารของ
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยเน้นถึงการป้องกันการบุกรุกจากผู้ชุมนุมและสามารถดำเนินการได้ตาม
สภาพแวดล้อมจริง
ในขั้นตอนการวิจัยจะใช้วิธีการวิจัยการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) และการ
สมั ภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) เพื่อหาข้อเท็จจริงเชิงลึก จากนั้นจึงนำผลทั้งสองวิธี มา
ประมวลผลและสรุป
ในการศึกษานี้จะใช้วิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Methods Research) รวมถึงสอบถามผู้ดูแล
พื้นที่ ทั้งนี้ได้0 ทั้งนี้การวิเคราะห์ทั้ง 3 เรื่องนี้จะมองในมุมมองของรูปด้านอาคาร รวมถึงปัญหาของการ
เข้าถึงพื้นที่และระบบเส้นทางการสัญจรภายในทั้งยานพาหนะและทางเท้า ประกอบร่วมกันเพื่อให้
การวิเคราะห์หาปัญหามีความครอบคลุมจนนำไปสู่ขั้นตอนที่สำคัญ
ผลการวิจัยพบว่า
อาคารผู้ป่วย จำนวน 12 อาคาร 0ที่กำหนดเป็นอาคารที่ใช้ศึกษานั้น มีปัญหาลักษณะ
กายภาพอาคาร ซึ่งสามารถสรุปปัญหาออกเป็น 3 เรื่องย่อย ได้แก่ 1) เรื่องแนวรั้วและการเข้าถึง 2)
เรื่องรัศมีภูมิทัศน์ 5 เมตร และสุดท้าย 3)เรื่องลักษณะกายภาพชั้นล่างและวัสดุผิวอาคาร 0ส่วนปัญหา
(2)
อีกด้านได้แก่ ปัญหาเส้นทางการเข้าถึงและเส้นทางสัญจรภายในพื้นที่ สำหรับการเก็บข้อมูลแบบ
สัมภาษณ์เชิงลึกนั้นได้ศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่ จำนวน 5 คน
ผลสรุปที่ได้จากการวิเคราะห์สามารถสรุปผลได้ดังต่อไป
1.การแก้ปัญหาแนวรั้วและการเข้าถึงอาคาร โดยรั้วเดิมมีลักษณะที่ดีอยู่แล้วแต่ควรเพิ่มแนว
ไม้พุ่มที่มีกิ่งก้านเยอะ หรือมีหนาม เพื่อให้เกิดอุปสรรคในการปีนป่ายที่ยากลำบากขึ้น สำหรับการ
เข้าถึงตัวอาคารทาช่องเปิดต่าง ๆ ควรมีการสร้างระแนงไม้หรือเหล็กที่มีความแข็งแรง คงทน และให้
กลมกลืนกับสถาปัตยกรรมปิดกั้นด้านนอก
2.การแก้ปัญหารัศมี ภูมิทัศน์ 5 เมตร ต้นไม้ใหญ่โดยรอบควรมีการเพิ่มพืชที่เกาะลำต้นไม้
ใหญ่ และมีหนาม เช่นต้นหนาวแน่ขาว และริบกิ่งล่าง ๆ ทิ้ง เพื่อให้ใช้เป็นที่เกี่ยวหรือแขวนอะไรทั้งสิ้น
3.การแก้ไขปัญหากายภาพชั้นล่างและผิวอาคารที่เป็นช่องเปิด ควรติดฟิลม์นิรภัย รวมทั้งเพิ่ม
ระแนงไม้หรือเหล็ก
4.การแก้ปัญหาทางสัญจรทางรถ ควรมีแนวเส้นทางวิ่งและป้ายให้ชัดเจน รวมถึงการเพิ่ม
สัญญาณไฟสีเหลือง ตามจุดที่มีการเสี่ยงภัยหรือจุดใช้ทางร่วมด้วยกัน สำหรับเส้นทางสัญจรของคน
เดินเท้า ควรมีคีย์การ์ดในการเข้า-ออกอาคาร และบริเวณทางเดินควรมีแนวรั้วหรือราวป้องกันการปีน
ป่ายเข้าสู่อาคาร
ซึ่งแนวทางที่เสนอแนะนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการบุกรุกจากกลุ่มผู้เข้า
ชุมนุม หรือกลุ่มอาชญากรได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด |
Description:
|
งานวิจัยงบประมาณแผ่นดิน ปีงบประมาณ 2559 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา |
URI:
|
http://hdl.handle.net/123456789/793
|
Date:
|
2018-10-02 |